หลังจากที่ได้ไปศึกษาต่อที่, มีผลกระทบต่อชีวิตเราในด้านไหนบ้าง?เพื่อที่จะได้คำตอบอย่างละเอียด ทางโครงการเราได้ทำการสัมภาษณ์นักเรียนสี่ึคนที่พึ่งกลับมาจากประเทศจีน. ซึ่งทั้งสี่คนนี้ได้ไปศึกษาต่อที่ประเทศจีนในเวลาที่ต่างกัน,รวมถึงเมืองที่ต่างกันเช่น เซี่ยงไฮ้ หางโจว เป็นต้น. หลังจากที่พวกเค้าเรียนจบจากประเทศจีนนั้น มีได้ทำธุรกิจกับบริษัทต่างประเทศ มีได้เปิดร้านขายของออนไลน์จากจีนให้กับคนไทย มีอยู๋ทำงานต่อที่ประเทศจีน.
หลิวเผยฉิน อายุ 26 ปี เข้าศึกษาปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเจ้อเจียงเป็นเวลาสองปี, โดยเรียนสาขาการค้าระหว่างประเทศ. สิ่งที่เขาคิดถึงมากที่สุดนั้นก็คือมิตรภาพของเพื่อนนั่นเอง รวมไปถึงห้องสมุดที่อลังการของประเทศจีน ความเร็วของอินเทอร์เน็ต. หลังจากกลับมาที่กรุงเทพนั้นสิ่งที่ทำให้ไม่สบายใจที่สุดนั้นก็คือการคมนาคมหรือว่ารถติดที่กรุงเทพ เพราะที่เมืองหางโจวนั้นรถยังไม่ติดขนาดนี้ทั้งที่จำนวนรถก็ไม่ได้ต่างกันมาก, กรุงเทพยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ซักที.
หยางหลินนั้นบ้านอยู่ที่จังหวัดสงขลา ภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งห่างจากตัวเมืองหนึ่งชั่วโมง. แต่ก่อนในขณะที่ยังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยในสงขลานั้น ทางหยางหลินได้รับทุนในปี 2007 ซึ่งทำให้เขาได้ไปเรียนต่อที่ประเทศจีน. หลังจากอยู่ที่ประเทศจีนนานสิบปีนั้น สิ่งที่ชอบที่สุดนั้นก็คือเวลาที่คนจีนมาบอกกับเขาว่าภาษาจีนคุณเก่งมากนะ,เขาก็จะตอบกลับไปว่าแกล้งฟังรู้เรื่อง. ซึ่งจริงๆนั้นเกิดจากความขยันของเขานั่นเอง.
ความเจริญที่รวดเร็วของประเทศจีนนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้คนไทยสี่คนนี้อึ้งมากที่สุด,หยางหลินยังบอกอีกว่าตอนที่ไปเรียนแลกเปลี่ยนที่เมืองคุนหมิงนั้น ยังจำได้ว่ามีรถไฟฟ้าอยู่แค่หนึ่งสาย. แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนไปอย่างมากมายและรวดเร็ว.
เฉินยู่อิน อายุ 24 ปี บ้านของตาเธออยู่ที่มณฑลกว่างตงประเทศจีน เธอเป็นคนแรกในตระกูลที่ได้ไปศึกษาต่อที่ประเทศจีน โดยที่เธอเป็นคนที่มีอายุน้อยที่สุดอีกด้วย. เธฮคิดว่าคนจีนเป็นคนที่ค่อนข้างมีฐานะแต่กลับแต่งตัวเรียบง่าย นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้เที่ยวมากมายในประเทศจีน จนพบว่าตามเมืองหมู่บ้านเล็กๆนั้นมีความสวยมากกว่าเมืองใหญ่ๆอย่างหางโจวอีกด้วย. จีนตอนบนและตอนใต้ก็มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง และสำหรับคนที่ชอบกินอย่างเธอการมาอยู่ที่จีนนั้นจะทำให้น้ำหนักขึ้นอย่างแน่นอน.
การซื้อของออนไลน์นั้นเป็นสิ่งที่เธอชอบมากสำหรับ หวางจินถิงนักศึกษาอายู 27ปีของมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ เธอได้ตัดสินใจไปศึกษาต่อปริญญาโทที่เมืองเซี่ยงไฮ้. เธอบอกว่าเถาเป่าเป็นร้านที่เธอชอบมากที่สุด เพราะว่าที่ไทยการซื้อของออนไลน์นั้นยังไม่เร็วและสะดวกเท่ากับที่ประเทศจีน.
อยู่ประเทศจีนมานานที่สุดอย่างหยางหลิน มีประสบการณ์ทำงานมาแล้วหลายประเภท เธอมีความฝันอยากให้ทางคนไทยได้ไปเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีของประเทศจีนมากขึ่น. เพื่อที่จะได้นำเทคโนโลยีนั้นๆกลับมาพัฒนาประเทศไทย ไม่ใช่แค่เรียนจบเฉยๆ แต่จะต้องเรียนแล้วได้ความรู้จริงๆ. เพราะถ้าคนไทยทำได้ก็จะมีโอกาสพัฒนาประเทศของเราให้เจริญแบบประเทศจีนนั่นเอง.